เป็นระยะเวลาหลายเดือนที่กล้อง Canon PowerShot G11 ยึดตำแหน่งกล้องดิจิตอลที่ดีที่สุดของ CHIP ก่อนที่จะต้องเสียตำแหน่งให้กับกล้อง P7000 ของนิคอนที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเราสันนิษฐานว่ากล้อง PowerShot G12 ก็เป็นคู่แข่งคนใหม่ที่ถูกส่งออกมาเพื่อต่อสู้กับกล้องของนิคอน โดยคุณสมบัติพื้นฐานก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่ากล้อง Power Shot G11 เห็นได้จากคุณภาพภาพที่ดีขึ้นและเก็บรายละเอียดภาพได้ดีกว่าเดิม
ให้ภาพดีขึ้นด้วยปริมาณจุดรบกวนที่ต่ำลง
ถ้าจะพูดให้ตรงประเด็น กล้อง G12 ยังคงใช้คอนเซ็ปต์เดียวกับกล้องรุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดจอแสดงผล ระยะโฟกัสของเลนส์ ค่ารูรับแสงที่เลนส์สนับสนุน รวมถึงความเร็วชัตเตอร์ต่ำสุดหรือสูงสุด ถึงกระนั้นก็ยังเต็มไปด้วยฟีเจอร์ในการถ่ายภาพระดับไฮเดนด์เพื่อให้มัน สามารถเป็นกล้องตัวเลือกที่ 2 รองจากกล้อง DSLR ของช่างภาพ รวมถึงผู้ที่รักการถ่ายภาพที่ต้องการกล้องขนาดเล็ก แต่มีความสามารถรอบตัว พร้อมให้คุณภาพภาพในระดับที่เอาไปโชว์ได้โดยไม่ต้องเขินอาย
ภายในกล้อง G12 ยังคงใช้เซนเซอร์ CCD ขนาด 1/1.7 นิ้ว ที่ให้ภาพขนาด 10 ล้านพิกเซล และประมวลผลการทำงานด้วยชิป DIGIC 4 โดยแคนนอนตั้งใจจะช่วยเสริมให้ภาพถ่ายมีคุณภาพสูงขึ้น ทำงานได้เร็วกว่าเดิม พร้อมด้วยจัดการกับการเกิดจุดระบบกวนบนภาพหรือสีสันภาพที่ผิดพลาดให้มี ปริมาณน้อยลง ซึ่งจากการทดสอบในห้องแลป พบว่า ตั้งแต่ค่าความไวแสง ISO 400 จนถึง ISO 1600 กล้อง G12 มีปริมาณจุดรบกวนบนภาพหรือ Noise ในระดับที่ต่ำมาก แต่ก็ปริมาณการสูญเสียรายละเอียดบนภาพอันเกิดจากการจุดรบกวนก็ยังคงสูง เหมือนเดิม และจะมากกว่าเล็กน้อยเมื่อใช้งานค่าความไวแสง ISO 1600
เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับกล้อง G11 ขณะเดียวกันภาพถ่ายก็จะมีความคมชัดและสีสันภาพที่ถูกต้องมากกว่า นอกจากนั้นในเรื่องของความเร็ว กล้อง G12 กลับใช้เวลาโฟกัสภาพอัตโนมัตินานกว่ากล้อง G11 โดยจะจับภาพจนนิ่งภายในเวลา 0.51 วินาที และใช้ระยะเวลาในการถ่ายภาพครั้งที่ 2 ก็จะนาน 2.1 วินาที ขณะที่กล้อง G11 จะใช้เวลาโฟกัสภาพ 0.46 วินาที และใช้ระยะเวลาการถ่ายภาพครั้งที่ 2 เพียง 1.2 วินาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม กล้อง G12 ก็พัฒนาในเรื่องการถ่ายภาพต่อเนื่องขึ้นมาอีกระดับ จากเดิมที่กล้อง G11 จะถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็ว 1.1 ภาพต่อวินาทีก็เพิ่มมาเป็น 2.0 ภาพต่อวินาทีแทน ส่วนเรื่องการทำงานด้วยแบตเตอรี่แม้จะไม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ก็สามารถถ่ายภาพแบบเปิดแฟลชไปได้ 210 ภาพ และถ้าหากปิดแฟลชถ่ายภาพก็ทำ การบันทึกภาพไปได้ถึง 1,970 ภาพ
โครงสร้างใหม่ พร้อมฟังก์ชัน HDR และ HD Video
โครงสร้างภายนอกของกล้อง G12 เกือบจะเหมือนกับกล้องรุ่นที่ผ่านมา แต่มีรายละเอียดบางส่วนแคนนอนที่ปรับปรุงให้ตอบสนองการควบคุมได้ดีขึ้น อย่างเช่น เพิ่มปุ่มวงแหวนด้านหน้ากล้องบริเวณมุมขวาสำหรับควบคุมค่ารูรับแสงและความ เร็วชัตเตอร์ ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วช่วยให้ปรับค่าการถ่ายภาพเหล่านั้นได้ง่ายขึ้นอย่างมาก ต่อมาก็จะเป็นการปรับปุ่มวงแหวนเรียกใช้งานค่าความไวแสงที่เรียกค่า ISO ออกมาได้ละเอียดขึ้น จากเดิมที่ปรับได้ ISO 80, 100, 200, 400 ก็จะเป็น ISO 80, 100, 125, 160, 200, 250, 320, 400 เป็นต้น ซึ่งจะไม่ได้ระบุเป็นตัวเลขบนวงแหวน แต่จะเป็นช่องว่างๆ และใช้จุดแทน ส่วนอื่นๆ ก็ยังเดิมอย่างจอแสดงผลขนาด 2.8 นิ้ว ความละเอียด 461,000 พิกเซลที่สามารถปรับหมุนจอภาพถ่ายภาพได้ ใช้เลนส์ระยะโฟกัส 28 – 140 มิลลิเมตร พร้อมค่ารูรับแสง F2.8- 4.5 ซูมแบบออปติคอลได้ 5 เท่า
นอกจากโหมดถ่ายภาพแล้ว กล้อง G12 บันทึกวิดีโอได้ละเอียดขึ้นในระดับ HD (1,280x720 พิกเซล) แน่นอนว่า ในด้านคุณภาพภาพและเสียงก็ถือว่า น่าพอใจมากทีเดียว แต่น่าเสียดายที่การบันทึกวิดีโอของกล้องไม่สามารถจับโฟกัสต่อเนื่องได้ และบันทึกต่อเนื่องได้นานเพียง 30 นาที จากเดิมที่เคยทำได้ 60 นาที ทำให้ดูเหมือนว่าทางแคนนอนไม่ได้เน้นให้ฟังก์ชันนี้เป็นจุดขายของกล้องเลย
บทสรุปและความคิดเห็นของ CHIP
ถือว่าทำได้ไม่เลวเลยสำหรับกล้อง PowerShot G12 แม้ว่าจะมีหลายๆ อย่างที่ทำได้น่าผิดหวังอย่างการบันทึกวิดีโอที่ไม่สามารถจับโฟกัสวัตถุต่อ เนื่องได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า มันถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการถ่ายภาพมากกว่า เห็นได้จากระบบการควบคุมที่เอื้ออำนวยให้ทั้งการถ่ายภาพง่ายๆ แบบเล็งแล้วถ่าย หรือจะถ่ายภาพแบบแมนนวลก็สามารถปรับค่าการถ่ายภาพได้ง่ายและละเอียดกว่า กล้อง G11 อีกทั้งคุณภาพภาพก็อยู่ในระดับที่น่าประทับใจจริงๆ ส่วนคนที่มีกล้อง G11 อยู่แล้วก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเปลี่ยนมาเป็นกล้องตัวนี้ หากใครที่กำลังมองหากล้องคอมแพคเก่งๆ ขนาดเหมาะมือ และให้ภาพถ่ายภาพสวยๆ กล้อง PowerShot G12 ก็นับเป็นตัวเลือกที่ควรจะนำไปพิจารณาเป็นอันดับแรกๆ
No comments:
Post a Comment