หน้าเว็บ

กล้องดิจิตอล

Thursday, May 26, 2011

Canon EOS 600D ซีรีย์กลางที่เก่งไม่แพ้รุ่นกึ่งโปร



ข่าวดีสำหรับแฟน Canon ก็คือ การจะได้พบกับกล้อง EOS 600D ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมในราคาไม่สูงจนเกินไป แน่นอนว่าด้วยกล้องตัวนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพความละเอียด 18 ล้านพิกเซล พร้อมกับบันทึกวิดีโอระดับ Full HD ได้ด้วยคุณภาพที่ดีมาก โดยไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากเลย

ณ เวลานี้เจ้า EOS 600D ได้กลายเป็นตัวท็อปของกล้อง DSLR รุ่นกลางของ Canon แทนที่ EOS 550D ซึ่งหันไปทำตลาดกล้องระดับ Entry-level ด้วยระดับราคาที่ลดลงตามกลไกตลาด ดังนั้นรุ่นเก่าอย่าง EOS 500D จึงตกรุ่นไปตามระเบียบ ส่วนในกล้องรุ่นเล็กราคาประหยัดก็มี EOS 1100D เป็นตัวชูโรงที่เข้ามาแทนที่กล้อง EOS 1000D

จอแสดงผลที่เปลี่ยนไป
ด้านหลังของตัวกล้องเราสามารถมองเห็นความแตกต่างได้ชัดๆ ระหว่างกล้อง EOS 600D กับ EOS 550D โดยจอแสดงผลจะไม่ได้ฝังอยู่กับตัวกล้องแล้ว แต่จะกลายเป็นจอแสดงผลแบบบานพับที่เปิดออกมาใช้งานได้ (เหมือนกับกล้อง EOS 60D) ซึ่งจอแสดงผลจะมีขนาด 3 นิ้วความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซล ดังนั้นการแสดงผลภาพจึงมีความคมชัดสูงและการแสดงสีสันเองก็น่าประทับใจมาก จอแสดงผลแบบเปิดได้นี้มีไว้เพื่อรองรับการถ่ายวิดีโอและการถ่ายภาพนิ่งในโหมด Live View ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบภาพได้จากจอแสดงผลก่อนที่จะกดชัตเตอร์



แต่ข้อด้อยของโหมด Live View ของกล้อง EOS 600D ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม นั่นก็คือในตัวกล้องจะใช้เวลาในการจับโฟกัสภาพที่นานถึง 3 วินาที แม้ว่าจะเร็วขึ้นเล็กน้อยถ้าใช้งาน “Quick Mode” (1.3 วินาที) แต่ในขณะที่กล้องทำการวัดแสงและโฟกัสภาพ ภาพบนจอแสดงผลจะหายไปวูบนึง ซึ่งถ้าเทียบกับมือโปรด้าน Live View อย่าง Sony Alpha 55 ที่ใช้เวลาในกระบวนการดังกล่าวแค่ 0.37 วินาทีแล้ว กล้อง EOS 600D ถือว่ายังด้อยกว่าอยู่พอสมควร แต่ในโหมดการทำงานปกติผ่านช่องมองภาพ กล้อง EOS 600D สามารถทำงานได้รวดเร็วมาก กล้องจะพร้อมถ่ายได้ในแทบจะทันทีที่สลับการทำงานมาจากจอ LCD (0.3 วินาที) การถ่ายภาพต่อเนื่องทำความเร็วได้ที่ 3.9 ภาพต่อวินาที แม้จะไม่ได้เร็วที่สุดในบรรดากล้องราคาระดับเดียวกันแต่ก็เร็วกว่า EOS 550D อยู่เล็กน้อย แต่ถ้าคุณกำลังมองหากล้องเพื่อถ่ายภาพงานแข่งกีฬาที่มีความเร็วสูงๆ ละก็ เราคิดว่ากล้อง EOS 60D น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า



ถ่ายวีดิโอแบบ Full HD
การถ่ายวิดีโอแบบ Full HD แทบจะเรียกได้ว่าเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของกล้อง DSLR ในตอนนี้ไปแล้ว โดยกล้อง EOS 600D ก็ได้บรรจุฟีเจอร์แบบเดียวกันกับรุ่นพี่อย่างกล้อง EOS 60D เอาไว้ เราสามารถถ่ายวิดีโอได้ง่ายๆ โดยยกหน้าที่การเซ็ตค่าต่างๆ ให้ตัวกล้องจัดการเอง หรือถ้าเราต้องการจะปรับค่าต่างๆ ด้วยตัวเองก็ทำได้เช่นกัน ส่วนเรื่องการบันทึกเสียงวิดีโอ นอกจากกล้องจะมีไมโครโฟนที่บันทึกเสียงแบบโมโนแล้ว ยังมีช่องต่อไมโครโฟนภายนอกแบบสเตอริโอ ถึงกระนั้นกล้องก็ยังขาดฟีเจอร์ที่น่าจะมีอย่างเช่น การปรับความคมชัดอัตโนมัติระหว่างถ่ายวีดิโอ ซึ่งทาง Panasonic ใส่ไว้แล้วเรียบร้อยในกล้องรุ่น GH2

ที่มาของภาพถ่ายชั้นเยี่ยม
กล้อง EOS 600D ใช้เซนเซอร์รับภาพชนิด CMOS ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล เหมือนที่อยู่ในกลุ่ม EOS 550D, 60D และ 7D ขณะเดียวกันก็ใช้ชิปประมวลผลภาพ DIGIC IV และระบบวัดแสงแบบใหม่ “iFCL” พร้อมระบบโฟกัส 9 จุด ซึ่งเรียกว่าเป็นมาตรฐานของกล้อง EOS รุ่นใหม่ นอกจากนี้กล้องยังรองรับการปรับค่าความไวแสงตั้งแต่ค่า ISO 100 – 6400 และปรับได้สูงสุด ISO 12,800

จากการทดสอบตามกระบวนการของเรา กล้อง EOS 600D ให้ผลลัพธ์ได้น่าประทับมาก ภาพถ่ายที่ได้จากกล้องมีจุดรบกวนต่ำมากและมีความคมชัดของภาพสูง ซึ่งจะมองเห็นจุดรบกวนได้ชัดเจนก็ภาพใช้ค่าความไวแสง ISO 1600 ขณะที่ค่าความละเอียดเส้นที่ความไวแสงต่ำสุดก็ทำได้ถึง 1,574 เส้น ส่วนที่ค่าความไวแสง ISO 3200 ก็มีค่าความละเอียดเส้นที่ดีอยู่ด้วยค่า 1,227 เส้น ดังนั้นภาพจึงไม่เพียงมีความคมชัดที่น่าพอใจ แต่ยังเก็บรายละเอียดภาพได้ดี ซึ่งเหนือกว่าคู่แข่งในกลุ่มราคาเดียวกันอย่างกล้อง Nikon D5100

เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นรวมถึงผู้เชี่ยวชาญ
การเรียนรู้การทำงานของกล้อง EOS 600D ถือว่าไม่ยากเลย เนื่องจากเมนูที่แสดงผลบนจอภาพนั้นถูกออกแบบให้ทำความเข้าใจได้ง่าย ขณะที่บนตัวกล้องก็มีปุ่มสั่งงานที่มีจำนวนเหมาะสมและยังสะดวกด้วยปุ่ม Scroll Wheel ส่วนน้ำหนักตัวกล้องไม่รวมเลนส์ก็หนักเพียง 570 กรัม แม้จะว่าเบากว่าและเล็กกว่ากล้อง EOS 60D แต่มันก็ทำการถ่ายภาพด้วยพลังงานแบตเตอรี่ได้ไม่เลวเลย โดยสามารถถ่ายภาพในโหมด Live View ได้ 360 ภาพ ขณะที่การถ่ายภาพปกติโดยไม่เปิดแฟลชสามารถทำได้ 1020 ภาพ และถ่ายวิดีโอต่อเนื่องได้นาน 100 นาที

สำหรับนักถ่ายภาพมือใหม่สามารถเรียกใช้ฟังก์ชันอัตโนมัติอย่าง “Intelligent Scene automatic” ได้ ซึ่งในโหมดนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถบันทึกภาพได้อย่างคมชัดแม้ว่าจะเป็นการถ่ายวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว และด้วยโหมด Creative Auto” ก็ทำให้สามารถถ่ายภาพที่มีระยะความลึกต่างกันมากๆ ได้โดยง่าย นอกจากนี้หลังจากบันทึกภาพแล้ว ยังสามารถปรับเอฟเฟ็กให้กับภาพได้อีก 5 แบบ อย่างเช่นใส่เอฟเฟ็กแบบ Fish eye และ Miniature

บทสรุปและความคิดเห็นของ CHIP
เรายังมองเห็นว่า Canon พัฒนากล้องระดับกลางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นออกมาแล้วด้วยกล้อง EOS 600D ซึ่งเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีที่ข่วยเหลือผู้ใช้และให้ผลลัพธ์ในเรื่องภาพที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะปริมาณจุดรบกวนและความละเอียดภาพนั้นน่าประทับใจจริง ขณะที่จอแสดงผลแบบหมุนได้ก็ส่งผลให้การใช้งานกล้องในการถ่ายวิดีโอหรือถ่ายภาพในมุมที่ผิดปกติทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ฟังก์ชันการถ่ายวิดีโอก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เพราะคุณภาพภาพวิดีโอที่ได้นั้นถือว่าดีที่สุดแล้วในกลุ่มกล้อง DSLR ระดับเดียวกัน แม้ว่าจะมีบางจุดที่ควรปรับปรุงอย่างเช่น ความเร็วในโฟกัสภาพในโหมด Live View หรือ การโฟกัสวัตถุขณะถ่ายทำวิดีโอ ซึ่งเราคาดหวังว่า น่าจะเห็นการปรับปรุงทั้งสองจุดนี้ในกล้องรุ่นต่อไป

No comments:

Post a Comment